0 Fight 10

10 Fight 10 รายการดีมีคุณค่าต่อวงการกีฬามวย

10 Fight 10 ถือว่าเป็นรายการทีวีที่ถูกอกถูกใจคนไทยหลายคน โดยเฉพาะหนุ่มสาวที่ชื่นชอบกีฬามวยอยู่แล้ว และยิ่งมีดาราดังในแวดวงต่าง ๆ ขึ้นมาต่อยมวยสากลบนเวทีกันแบบจริง ๆ ทำให้รายการนี้สะท้อนถึงคุณค่า และ มวย กลายเป็นกีฬาที่ได้รับความสนใจมากยิ่งขึ้น ที่สำคัญ พลาดไม่ได้เลย กับ ซ้ายดารา ตะวันฉาย พี.เค.แสนชัยมวยไทยยิม นักมวยหนุ่มสไตล์โอปป้า สูงยาวตี๋ขาว เขามีอายุเพียง 21 ปี แต่มีฝีมือที่ร้ายกาจ และหาตัวจับยากคนหนึ่งของวงการ

     อย่างไรก็ตาม สิ่งที่เราทุกคนเห็นจากรายการนี้ มีคุณค่าซ่อนอยู่หลังฉากความสนุก และความบันเทิง ที่เหล่าดาราได้ร่วมสร้างสีสันเรียกเรตติ้งให้กับรายการ และทั้งหมดนี้คือ 5 ข้อดีของรายการ ที่  MUAY-NEWS ได้ตีโจทย์ออกมา

5 ข้อดีของรายการ 10 Fight 10

1. 10 Fight 10 สอนให้รู้จักกีฬามวยสากลมากขึ้น

     รายการนี้ไม่เพียงแค่เอาคนดังมาต่อยกัน เพื่อสร้างสีสันแล้วจบไป แต่สิ่งที่ทางรายการแอบแฝง และอัดแน่นไปด้วย ความรู้ความเข้าใจในกีฬามวยสากลอย่างถูกต้อง ใช้กติกาสากลจริงแบบโอลิมปิก ชกกัน 3 ยก ยกละ 3 นาที นับคะแนนกันแบบ 10 Point

10 Fight 10

     การให้คะแนน ยังใช้กรรมการผู้เชี่ยวชาญมืออาชีพ ที่ผ่านการตัดสินมวยในระดับประเทศมาแล้ว ผู้ตัดสินบนเวทีชี้แจงกฎกติกาอย่างชัดเจน นักมวยแบ่งเวทน้ำหนักจริง แต่อาจจะมีหยวน ๆ กันบ้างตามความเหมาะสม

     ส่วนผู้บรรยายก็ไม่ใช่ใครที่ไหน สมจิตร จงจอหอ อดีตนักชกระดับแชมป์โลก และแชมป์โอลิมปิก คอยอธิบายให้ความรู้เทคนิคต่าง ๆ เคียงข้าง คุณนก ตานี ผู้บรรยายมวยไทย เสียงที่แฟนมวยคุ้นเคย ดูจบแล้ว บอกเลยว่า ผู้ชมทุกคนสามารถดูมวยสากลในโอลิมปิก เอเชียนเกมส์ ซีเกมส์ แล้วคุยกับเพื่อนได้อย่างสนุก

2. ความเป็นมืออาชีพ และน้ำใจนักกีฬา

     แม้ว่าคนดังหลาคนจะไม่ใช่นักมวยมืออาชีพ แต่ก่อนจะขึ้นชกบนเวทีพวกเขาต่างฟิตซ้อมเตรียมร่างกายกันมาเกือบปี ผ่านการฝึกซ้อมอย่างจริงจัง ตามแบบฉบับนักมวยมืออาชีพ มีการใช้หลักวิทยาศาสตร์การกีฬาเข้ามาช่วย โดยมีเทรนเนอร์มืออาชีพของทั้งสองทีมอย่าง อองตวน ปินโต้ อดีตนักมวยระดับแชมป์ กับ แมทธิว ดีน โปรโมเตอร์ที่ปั้นนักมวยมานักต่อนัก

10 Fight 10 น้ำใจนักกีฬา

     นับตั้งแต่ซีซั่นแรกจนถึงซีซั่นนี้ เรายังได้เห็นความเป็นมืออาชีพ และน้ำใจนักกีฬาของทั้งสองฝ่าย ไม่ว่าทั้งคู่ชกจะสนิทกันแค่ไหน แต่เมื่อขึ้นไปอยู่บนเวที ต่างคนต่างทำหน้าที่ของตัวเองอย่างเต็มที่ ดุเดือด เลือดอาบ แต่ทันทีที่เสียงระฆังดังครบยก พวกเขาต่างโผเข้ากอดกัน ขอโทษซึ่งกัน และกันด้วยความเคารพ บอกตรง ๆ ในฐานะที่อยู่ในวงการกีฬา เห็นแล้วมันช่างเป็นภาพที่น่าประทับใจจริง ๆ

3. 10 ไฟท์ 10 ปลุกกระแสมวยไทย

ปลุกกระแสมวยไทย

     ไม่ใช่แค่มวยสากล แต่มวยไทยในบ้านเรา ช่วงหลัง ๆ ถือว่าซบเซาไปกว่าเมื่อก่อน ดูได้จากผลงานทีมชาติในช่วงหลังก็เงียบ ๆ ไม่คึกคัก หรือ แม้แต่มวยไทยที่คนเริ่มเข้าเวทีมวยกันน้อยลง ไหนจะเจอโควิด มาซ้ำเติมกันอีก

     ดังนั้น การนำเอาคนดังที่มีฐานแฟนคลับติดตามหนาแน่นมาต่อยกันจริง ๆ แบบสด ๆ จึงมีส่วนช่วยปลุกกระแสให้กับวงการมวย ได้กลับมาอยู่บนหน้าสื่ออย่างต่อเนื่องอีกครั้ง และที่สำคัญยังสามารถดึงดูดให้สาว ๆ ที่เป็นฐานแฟนคลับของคนดังหันมาสนใจกีฬามวยมากยิ่งขึ้น

4. ส่งเสริมความเท่าเทียมทางเพศ

ความเท่าเทียมทางเพศ

     โดยในปีนี้ เป็นครั้งแรกที่จัดให้มีการแข่งขันมวยหญิง อย่าง เชียร์ ฑิฆัมพร กับ หมอเจี๊ยบ ลลนา อดีตนางสาวไทยปี 2549 มาชกกันบนเวที และยังให้ความสำคัญเพศที่ 3 ด้วยการนำ รัศมีแข ฟ้าเกื้อล้น นักแสดงชื่อดังเปรียบเสมือนตัวแทนของกลุ่ม LGBT มาต่อยในรายการ

     ซึ่งถือเป็นการส่งเสริมที่น่าชื่นชม และแสดงให้เห็นคนว่า ทุกเพศทุกวัยนั้นสามารถเล่นกีฬา และออกกำลังกายได้

5. สร้างแรงจูงใจให้ทุกคนหันมาออกกำลังกาย

     ไม่มีเวลา คำนี้หลายคนมักใช้เป็นข้ออ้างไม่ยอมออกกำลังกาย แต่ถ้าหากคุณมองไปที่ผู้เข้าแข่งขันทุกคน คุณจะค้นพบเลยว่าคำว่า ไม่มีเวลา มันไม่มีอยู่จริง อย่าลืมว่าศิลปินนักแสดงกว่า 20 ชีวิตต่างเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียง

     มีผลงานอยู่บนหน้าจอทีวีตลอดทั้งปี แต่ไม่ว่าพวกเขาจะมีเวลานอนน้อย คิวงานเยอะแค่ไหน แต่ก็ยังรู้จัดสรรเวลามาซ้อมมวยได้ สัปดาห์ละ 3-4 วัน นี่จึงเป็นอีกหนึ่งจุดที่รายการพยายามสื่อสารไปถึงผู้ชม ให้รู้จักแบ่งเวลามาออกกำลังกายมากกว่าดูเพื่อความบันเทิงแล้วจบไป

     จะเห็นว่า 10Fight10 รายการดีมีคุณค่าต่อวงการกีฬามวย มีการจัดทำ Story Telling บอกเล่าเรื่องราวเบื้องหลังการฝึกซ้อม รวมถึงแฟชั่นชุดเปิดตัวของแต่ละคน และจัดเต็มความบันเทิงด้วย แสง สี เสียง ให้ผู้เข้าแข่งขันได้ร่วมในโชว์สะกดคนดูได้อยู่หมัด รายการนี้จึงเป็นที่น่าสนใจ เหมือนกับการ เล่นสล็อตให้ได้โบนัส ด้วยทุน 100 ทำไม่ยาก ในปัจจุบัน