ฟลอยด์ เมย์เวทเธอร์ จูเนียร์

ฟลอยด์ เมย์เวทเธอร์ จูเนียร์ ในยุคปัจจุบัน “นักกีฬา” อาจฟังดูเป็นอาชีพที่ น่าอิจฉา เพราะนอกจากจะเป็นบุคคลมีชื่อเสียงในสังคม ได้รับการยกย่องแล้ว รายได้ของอาชีพนี้ก็ถือว่ามหาศาล ถึงขั้นที่ว่าคนธรรมดาทั่วไปอย่างเราๆ ชีวิตนี้คงทำได้แค่ฝันถึง โดยเฉพาะกีฬา “มวยสากล” ที่ถือว่าเป็นชนิดกีฬาที่ทำเงินได้เป็นล่ำเป็นสัน ร่ำรวยกันทั่วหน้าตั้งแต่นักลงทุน โปรโมเตอร์ รวมไปถึงตัวนักสู้บนสังเวียนผ้าใบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งนักมวยที่มีชื่อเสียงนั้น

เมย์เวทเธอร์ จูเนียร์ นั้น  มีชื่อเต็มว่า ฟลอยด์ จอย เมย์เวทเธอร์ จูเนียร์ (Floyd Joy Mayweather, Jr.) เกิดเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1977 (พ.ศ. 2520) ที่เมืองแกรนด์ราปิด รัฐมิชิแกน ซึ่งสำหรับครอบครัวของเมย์เวทเธอร์นั้น ก็ถือว่าเป็นตระกูลนักมวยโดยแท้ เพราะพ่อและลุงล้วนต่างเป็นนักมวยเก่ามาก่อน

ก้าวแรกสู่การเป็นนักมวย

เมย์เวทเธอร์ จูเนียร์ เริ่มต้นจากการชกมวยจากมวยสากลสมัครเล่น โดยมี โรเจอร์ ผู้เป็นอาเป็นเทรนเนอร์ ซึ่งชกได้ดี ประสบความสำเร็จอย่างมาก จนกระทั่งได้ติดทีมชาติสหรัฐอเมริกาในรุ่นเฟเธอร์เวท ในการแข่งขันโอลิมปิกฤดูร้อน ปี 1996 ที่เมืองแอตแลนตา รัฐจอร์เจีย โดยสามารถผ่านคู่ชกชาติต่าง

เส้นทางสู่โอลิมปิก

ฟลอยด์ เมย์เวทเธอร์ จูเนียร์ มีผลงานที่ดีจนได้ติดทีมชาติสหรัฐอเมริกาลุยศึกโอลิมปิก ปี 1996 (พ.ศ. 2539) ที่เมืองแอตแลนตา ประเทศสหรัฐอเมริกา รุ่นเฟเธอร์เวท และคว้ามาได้เพียงเหรียญทองแดง เป็นสัญลักษณ์ของความพ่ายแพ้ครั้งสุดท้ายของเขา ซึ่งเป็นรุ่นเดียวกับสมรักษ์ คำสิงห์ นักชกเจ้าของเหรียญทองโอลิมปิกคนแรกของไทย

เริ่มต้นการเป็นนักมวยอาชีพ

ฟลอยด์ เริ่มต้นชกมวยอาชีพเมื่อวันที่ 11 ตุลาคมปี 1996 เขาสร้างความสำเร็จโดยมีพ่อ ฟลอยด์ เมย์เวทเธอร์ ซีเนียร์ และ โรเจอร์ เมย์เวทเธอร์ อาของเขาคอยเป็นผู้ฝึกสอนและผู้จัดการ ในปี 1998 เขาก็คว้าแชมป์สภามวยโลกหรือ WBC ได้สำเร็จในรุ่น Super welterweight

     หลังจากปี 2000 ความสำเร็จบนเวทีของเขาก้าวกระโดดอย่างต่อเนื่อง ด้วยการคว้าแชมป์สภามวยโลก WBC รุ่น Lightweight ในปี 2002 แชมป์สภามวยโลกรุ่น Super lightweight ในปี 2005 แชมป์โลก IBF IBO WBC และ IBA ในรุ่น Welterweight ในปี 2006 จนมาถึงปี 2007 เขาสามารถเอาชนะ ออสก้า เดอลาโฮย่า ยอดนักชกแห่งยุค และคว้าแชมป์สภามวยโลกรุ่นซูเปอร์เวลเทอร์เวตไปครอง

     นอกจากนี้นักมวยที่มีชื่อเสียงระดับโลกหลายคน อาทิ ริกกี้ ฮัตตัน, แซบ จูดาห์, ฮวน มานูเอล มาร์เกวซ, อาร์ตูโร กัตติ, ดีเอโก คอร์ราเลส, มิเกล คอตโต้, ซาอูล อัลวาเรซ, มาร์กอส ไมดานา, แมนนี่ ปาเกียว ฟลอยด์ก็สามารถเอาชนะได้ทุกคน ไม่ว่าจะเป็นการชนะคะแนนหรือชนะน็อก

ทำเนียบแชมป์

  • แชมป์ ดับเบิลยูบีเอ เวลเตอร์เวท (2014-ปัจจุบัน)
  • แชมป์ ดับเบิลยูบีเอ เวลเตอร์เวท (2012-ปัจจุบัน)
  • (2) แชมป์ดับเบิลยูบีซี รุ่น ซุปเปอร์ เวลเตอร์เวท (2007, 2013-ปัจจุบัน)
  • (2) แชมป์ ดับเบิลยูบีซี รุ่นเวลเตอร์เวท (2006-2008, 2011-ปัจจุบัน)
  • แชมป์ ไอบีเอฟ เวลเตอร์เวท (2006)
  • แชมป์ ดับเบิลยูบีซี ซุปเปอร์ ไลท์เวท (2005-2006)
  • แชมป์ ดับเบิลยูบีซี ไลท์เวท (2002-2004)
  • แชมป์ ดับเบิลยูบีซี รุ่น ซุปเปอร์ เฟเธอร์เวท (1998-2002)
  • แชมป์ ดับเบิลยูบีซี ไดมอนด์ ซุปเปอร์ เวลเตอร์เวท (เดือนพ.ค.ปี 2012)

ความมั่งคลั่งของ ฟลอยด์ เมย์เวทเธอร์ จูเนียร์

ความสำเร็จของเขาต่อยอดไปสู่เม็ดเงินในธนาคาร โดยปี 2010 เขาเป็นนักกีฬาอาชีพที่มีรายได้มากที่สุดเป็นอันดับที่ 3 ด้วยรายได้กว่า 60 ล้านเหรียญสหรัฐต่อปี และในปี 2015 ในไฟต์หยุดโลกที่เขาเอาชนะ แมนนี่ ปาเกียว เขาก็สร้างรายได้จากไฟต์นั้นไปถึง 240 ล้านเหรียญสหรัฐ

ต้องบอกก่อนเลยว่าในยุคนี้ ณ เวลานี้ ฟลอยด์ เมย์เวทเธอร์ นั้นเป็นนักกีฬาที่มีความมั่นคลั่งมากที่สุดในโลก โดย เมย์เวทเธอร์ มีทรัพย์สินมาถึง 600 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 18,000 ล้านบาท) หรือบางสื่อรายงานว่าอาจมีมากถึง 700-1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (21,000 ล้านบาท – 30,000 ล้านบาท) และนั่นจึงเป็นที่มาของฉายา “เดอะ มันนี่” นั่นเอง

ติดตามนักมวยคนอื่นได้ที่ MUAY-NEWS.COM

สนับสนุนโดย คาสิโนออนไลน์