Mike Tyson

Mike Tyson

Mike Tyson

Mike Tyson ในช่วงที่ชีวิตพุ่งทะยานถึงขีดสุด ไมค์ ไทสัน คือยอดนักมวยอันดับ 1 ของโลกที่ใครขวางรับรองได้ว่าลงไปนอนนับ 10 ได้ง่ายๆ และด้วยสไตล์ดังกล่าวทำให้เขากลายเป็นมวยแม่เหล็ก กล่าวคือต่อยที่ไหนตั๋วขายหมดเกลี้ยง ขึ้นชกบนเวทีการันตีรายได้หลายล้านดอลลาร์

นับตั้งแต่ปลายยุค ’80s-’90s ไมค์ ไทสัน ใช้พลังหมัดโกยเงินเข้ากระเป๋าได้มากถึง 400 ล้านดอลลาร์ นั่นไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจอะไรนัก เพราะมันมีสิ่งที่เหลือเชื่อยิ่งกว่าคือ เขาสามารถใช้เงินจำนวนนั้นให้หมดได้ภายใน 20 ปี โดยเงินทั้งหมดไม่ได้ถูกแบ่งไปลงทุนอะไร มีแต่เอาไปใช้ในการหาความสุขล้วนๆ

ประวัติช่วงวัยเด็ก

ประวัติช่วงวัยเด็ก

ไมค์ ไทสัน มีชื่อจริงว่า ไมเคิล จีราร์ด ไทสัน (Michael Gerard Tyson) เกิดเมื่อวันที่ 30 มิถุนายน ค.ศ. 1969 ที่สลัมในบรูคลิน มหานครนิวยอร์ก คุณภาพชีวิตของ ไทสัน ในวัยเด็กถือว่าเลวร้ายมาก ไทสันเป็นเด็กที่มีนิสัยเกเรมาก ชอบมีเรื่องชกต่อยกับเด็กคนอื่นละแวกบ้านและก่ออาชญากรรมทั่วไป จนกระทั่ง คัส ดี’อมาโต (Cus D’Amato) ครูมวยเชื้อสายอิตาเลียน ได้มาพบเข้าและฝึกสอนไทสันให้รู้จักกับมวยสากลอย่างแท้จริง ที่ชกบนเวทีและมีกติกาที่ชัดเจน ซึ่งไทสันได้ รักและนับถือ ดี’อมาโตเสมือนกับพ่อของตนเองคนหนึ่งทีเดียว

ทุนเดิมแต่สันดานดิบ

ไมค์ ไทสัน อาจจะมีเส้นทางความร่ำรวยที่ไม่เหมือนกับสามล้อถูกหวย เพราะเขาไม่ได้นอนเฉยๆ และได้ความสำเร็จทั้งหมดมาแต่อย่างใด สาเหตุที่เขาสร้างเงินและชื่อเสียงได้เกิดจากพรสวรรค์ที่เหนือกว่าคนทั่วไป สภาพจิตใจที่พร้อมจะสู้ทุกคนอันเกิดจากสภาวะรอบตัวในวัยเด็กที่ปลูกฝังให้เขาเป็นอย่างนี้ และที่สำคัญที่สุดคือการนำพรสวรรค์ที่มีมาขัดเกลาอย่างมีวินัยจนกลายเป็นโคตรมวยเฮฟวี่เวท ที่ทำสถิติคว้าแชมป์โลกตั้งแต่อายุ 20 ปี ก่อนจะทำเงินมากมายจนคนธรรมดาไม่อาจจะจินตนาการได้

อย่างไรก็ตามปีศาจร้ายที่ซ่อนอยู่ในตัว ทำให้เขาเลือกใช้ทุกสิ่งที่หามาได้จากการชกมวยละลายออกไปแบบไม่ใช้สมองคิด จนที่สุดแล้วช่วงเวลาแค่ 20 ปี ไมค์ ไทสัน สามารถกลายเป็นบุคคลล้มละลายได้ 

นิสัยเดิมของ ไทสัน นั้นเป็นพวกเอาแต่ใจและเป็นพวกมีความมั่นใจในตัวเองสูงมาก สิ่งที่เขาคิดอยู่ทุกวันคือไม่ว่าจะตัวเองจะเลือกทำสิ่งใดก็ตาม ความคิดเขาถือว่าเป็นสิ่งที่ถูกต้องที่สุดและไม่มีใครสามารถแย้งเขาได้เลย เรียกได้ว่า “ชื่อเสียง” เปลี่ยนคนบ้านๆ ให้เป็นคนดัง, “เงินทอง” เปลี่ยนคนที่ไม่เคยมีได้ใช้เงินอย่างมือเติบ และ “เกียรติยศ” เปลี่ยนให้อดีตกุ๊ยข้างถนนวางมาดยโสโอหังใส่ทุกคนโดยปราศจากการให้เกียรติใครก็ตาม

แชมเปี้ยนโลก

แชมเปี้ยนโลก

ในเดือนพฤศจิกายน ค.ศ. 1986 ไมค์ ไทสัน ทำสถิติชนะรวด 26 ครั้ง ชนะน็อกถึง 24 ครั้ง ขึ้นชิงแชมป์โลกกับ เทรเวอร์ เบอร์บิค แชมป์โลกรุ่นเฮฟวี่เวทของสภามวยโลก (WBC) ขึ้นสังเวียนมวยที่โรงแรมฮิลตัน ในลาสเวกัส รัฐเนวาดา สำหรับเบอร์บิคแล้ว เขาเพิ่งได้แชมป์โลกเมื่อ 8 เดือนก่อนหน้านั้น ด้วยการชนะคะแนน พิงค์ลอน โธมัส แบบฉิวเฉียด ผลการชกไทสันเอาชนะน็อกเบอร์บิคได้อย่างรวดเร็วเพียงแค่ยกที่ 2 เท่านั้น และตลอดการชกเบอร์บิคเป็นฝ่ายถูกไทสันไล่ถลุงเพียงข้างเดียว ยิ่งโดยเฉพาะยกที่ 2 เบอร์บิคถูกไทสันชกล้มไปถึง 2 ครั้ง

ไมค์ ไทสัน จึงกลายเป็นแชมป์โลกเฮฟวี่เวทคนใหม่ล่าสุด พร้อมกับทำสถิติเป็นแชมป์โลกเฮฟวี่เวทที่อายุน้อยที่สุดในโลก ด้วยวัยเพียงแค่ 20 ปี 4 เดือน (ซึ่งยังเป็นสถิติมาจนทุกวันนี้) ทำลายสถิติเดิมของ ฟลอยด์ แพ็ตเตอร์สัน ที่เคยทำไว้ในวัย 21 ปี 10 เดือน และที่น่าเหลือเชื่อคือทั้งคู่มีเทรนเนอร์คนเดียวกัน คือ คัส ดี’อมาโต

หลังจากนั้นทั่วทั้งโลกได้รู้จักกับ ไมค์ ไทสัน นักมวยผู้มีภาพของความป่าเถื่อน รุนแรง กักขฬระ ผ่านการโปรโมตของ ดอน คิง โปรโมเตอร์อันดับหนึ่งของโลก นับได้ว่าไทสันกลายเป็นนักมวยอันดับหนึ่งของโลกและเป็นนักมวยคู่บารมีของดอน คิง อย่างแท้จริง การชกทุกครั้งของไมค์ ไทสัน สามารถทำเงินให้กับดอน คิง ได้มหาศาล ไทสันผ่านการชกป้องกันตำแหน่งอีกหลายต่อหลายครั้ง

จนกลายเป็นแชมป์โลกเฮฟวี่เวท 3 สถาบันคนแรกของโลก รวมทั้งการเอาชนะน็อก ไมเคิล สปิ๊งคส์ อดีตแชมป์เหรียญทองรุ่นเฮฟวี่เวทโอลิมปิคที่มอนทรีออล ที่หันมาชกมวยสากลอาชีพและทำสถิติไม่เคยแพ้ใคร และเมื่อถูกประกบคู่กับไทสัน สปิ๊งคส์ถูกมองว่าอาจเป็นคนแรกที่ยัดเยียดความปราชัยให้แก่ไมค์ ไทสัน ได้ แต่ผลการชกจริง ๆ ปรากฏว่า สปิ๊งคส์ เป็นฝ่ายแพ้น็อกไปเพียงแค่ยกแรกเท่านั้น อย่างที่เรียกว่า “นกกระจอกไม่ทันกินน้ำ”

ไมค์ ไทสัน ผู้ผันตัวสู่อาณาจักรสายเขียว

ไมค์ ไทสัน ผู้ผันตัวสู่อาณาจักรสายเขียว

“มฤตยูดำ” ไมค์ ไทสัน อดีตกำปั้นแชมป์โลกรุ่นเฮฟวี่เวต 3 สถาบัน รุกธุรกิจปลูกกัญชากว่า 100 ไร่ ในรัฐแคลิฟอร์เนีย พร้อมวางแผนพัฒนาสวนสนุกกัญชาแบบครบวงจรขนาด 420 เอเคอร์ ไมค์ ไทสัน อดีตกำปั้นรุ่นยักษ์ชาวอเมริกันได้มีธุรกิจหนึ่งที่ไม่ธรรมดาเเละมีลูกค้ามากมายที่พร้อมให้การสนับสนุน อีกทั้งยังไม่ผิดกฎหมาย นั่นคือธุรกิจ “กัญชา” แม้ว่ารัฐบาลของสหรัฐอเมริกาจะยังไม่อนุญาตให้ใช้ได้อย่างถูกกฎหมายทั่วประเทศ แต่ก็มีบางรัฐที่ได้รับการยกเว้นรวมถึงแคลิฟอร์เนีย ที่ “มฤตยูดำ” ลงหลักปักฐานสร้างไร่กัญชาที่นี่ โดยมีผู้เชี่ยวชาญทั้งสายเกษตรและการแพทย์คอยให้คำปรึกษาดูแลการผลิตทุกขั้นตอน

ธุรกิจกัญชาของ ไมค์ ไทสัน เริ่มต้นขึ้นเมื่อรัฐบาลอเมริกาปลดล็อกให้รัฐแคลิฟอร์เนีย ซื้อ-ขาย และเสพกัญชาได้อย่างถูกกฎหมายเมื่อปี 2016 เจ้าตัวและเพื่อนฝูงก็เดินทางไปซื้อที่ดินกว่า 100 ไร่ บริเวณใกล้เคียงอุทยานแห่งชาติ เดธ วัลลี พร้อมกับตั้งชื่อบริษัทเรียบร้อยว่า “Tyson Holistic” ซึ่งเป้าหมาย ก็คือผลิตกัญชาสำหรับใช้เพื่อความผ่อนคลาย หรือใช้สำหรับผสมอาหารด้วยคุณภาพระดับสูงเหนือกว่ากัญชาจากพ่อค้าทั่วไป ภายใต้แบรนด์ชื่อ “Tyson Ranch” แน่นอนว่าผลิตภัณฑ์ของ ไทสัน ไม่ต้องไหว้วานคนดังมาช่วยโปรโมตการขายเพราะคนพิสูจน์คุณภาพก็คือเจ้าตัวเอง

แม้ว่าไร่กัญชาของ ไมค์ ไทสัน นักชกคนดังจะไม่ได้ลงมือปลูกเองแต่ก็มีเกษตรกรผู้เชี่ยวชาญจ้างมาทำการเพาะปลูก โดยเจ้าตัวจะตรวจสอบคุณภาพสินค้าขั้นสุดท้ายก่อนปล่อยสู่ตลาดในรูปแบบตลับสีดำหรูหราน่าอุดหนุน แน่นอนว่าคนที่เสพกัญชามาทั้งชีวิตอย่าง ไทสัน ไม่ปล่อยสินค้าเกรดต่ำออกตลาด ทำให้มีลูกค้ามากมายที่เป็นทั้งแฟนคลับหรือไม่รู้จักมาก่อน ยกนิ้วให้สินค้าของเขาและอุดหนุนแบบอุ่นหนาฝาคั่ง ส่วนรายได้แม้ไม่มีการเปิดเผยเลขที่ชัดเจนแต่ก็คาดว่าอดีตกำปั้นรายนี้ทำเงินจากกัญชาเฉียด 1,000 ล้านเหรียญ (ประมาณ 31,200 ล้านบาท) แล้ว

ธุรกิจของ ไมค์ ไทสัน มั่งคั่งถึงขีดสุดจนทำให้เจ้าตัวเปิดโปรเจกต์ใหม่เป็นที่เรียบร้อย นั่นคือการเปิดรีสอร์ตกัญชาขนาดใหญ่ในพื้นที่กว่า 420 เอเคอร์ ที่ แคลิฟอร์เนีย ใกล้กับบริเวณ ดีเสิร์ต ฮอต สปริงส์ โดยแผนการที่วางไว้คือสร้างโรงแรมที่พัก, พื้นที่สันทนาการต่างๆ ที่เปิดให้ลูกค้ามากางเต็นท์นอนสัมผัสบรรยากาศธรรมชาติ, คอนเสิร์ตที่จะดึงศิลปินดังแวะเวียนมาให้ความบันเทิง และที่ขาดไม่ได้คือจำหน่ายกัญชาเกรดพรีเมียมในพื้นที่ของตัวเอง พร้อมกับเปิดหลักสูตรอบรมให้ความรู้เรื่องกัญชาแก่ผู้ที่สนใจเช่นกัน โดยปัจจุบันกำลังดำเนินการก่อสร้างอยู่

ไมค์ ไทสัน ในปัจจุบัน

ไมค์ ไทสัน ในปัจจุบัน

หลังจากการล้มละลายในปี 2003 และ ไทสัน รู้ว่าเงินไม่ได้หาง่ายเหมือนเดิมเขาจึงรู้ว่าตัวเขานั้นช่างไร้เดียงสาเสียเหลือเกิน เขาแทบไม่เหลือเงินเลยจากที่เคยมี 400-700 ล้านดอลลาร์ (หลายแหล่งข่าวระบุไม่ตรงกัน) ในกระเป๋า และมันทำให้เขาคิดได้ว่าเขาควรจะต้องวางแผนการใช้เงินใหม่ โดยหาคนเข้ามาจัดการเรื่องต่างๆ ที่เขาไม่ถนัด เพื่อให้ห่างไกลจากการโดนฟ้องร้องและปัญหาเรื่องการค้างชำระอะไรต่างๆ มากมายโดยที่ไม่รู้ตัว

ไทสัน เล่าว่าเขาเอาคำของ บรูซ ลี มาใช้ นั่นคือประโยคที่ว่า “จงทิ้งอดีตไว้ในอดีต” เขาพบว่าการมุ่งมั่นกับปัจจุบันและอนาคตคือวิธีเดียวที่จะทำให้ชีวิตเขาก้าวไปข้างหน้าได้ อย่างไรก็ตามมีเพียงหนึ่งสิ่งที่เขาพกมาจากอดีตด้วย นั่นคือความมั่นใจ เพราะมันคือสิ่งเดียวที่เขาคิดว่าดีที่สุดเท่าที่เขาเคยมี 

บนเวทีเขาอาจจะคิดว่าตัวเองคือนักมวยที่เก่งที่สุดในโลก แต่ในชีวิตจริงเขาความมั่นใจทำให้เขากล้าเปิดรับสิ่งใหม่ๆ เขาไม่ได้จมอยู่กับอดีตที่เคยเป็นแชมป์มวยโลกอีกแล้ว และเริ่มหันไปทำงานด้านบันเทิงด้วยการร่วมแสดงภาพยนตร์กับซีรี่ส์หลายเรื่องทั้ง “The Hangover , “How I Met Your Mother” , “Law and Order: SVU”, และ “Scary Movie” รวมถึงเรื่องอื่นๆ อีกมากมาย นอกจากนี้เขายังเริ่มลงทุนทำฟาร์มกัญชาบนพื้นทื่ 40 เอเคอร์ ในช่วงต้นปี 2018 

ปัจจุบันเว็บไซต์ Gobankingrates.com ที่สรุปสินทรัพย์ของเหล่าคนดังนั้น พวกเขาระบุว่าไทสัน มีสินทรัพย์อยู่ที่ราวๆ 3 ล้านดอลลาร์ ซึ่งแม้จะไม่ใช่เงินที่มากเท่าเก่า แต่สำหรับชายอายุ 52 ปี ที่เคยทั้งติดคุกและถูกฟ้องล้มละลายไปจนถึงเจอคดีสารพัด แค่นี้ก็ถือว่า ไทสัน คัมแบ็คกลับมาสู่ชีวิตปกติได้แล้ว

ประวัตินักมวยที่น่าสนใจ : เมืองไทย พี.เค.แสนชัย

บทความที่น่าสนใจ : Jammin Jars